วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Rent a car Thailand: กรุงไทยคาร์เร้นท์ เน้นบริการ+CRM

กรุงไทยคาร์เร้นท์ฯ ปรับกลยุทธ์การตลาด ปี 2546 เน้นงานบริการควบกิจกรรม CRM มาแทนกลยุทธ์แข่งขันราคา มุ่งขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มรถเช่าระยะสั้น พร้อมเปิดตลาดต่างจังหวัด ทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 10 ล้านบาท
ส่วนแผนระยะยาวนอกจากจะมุ่งไปที่รถเช่าระยะ สั้นแล้วยังจัดแคมเปญส่งเสริมการขายให้ลูกได้มีโอกาสเข้ามาทดลองใช้บริการ ด้วย โดยใช้ระบบสมาชิกเข้ามาเป็นจุดเรียกความสนใจ จากนั้นจะปรับโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับลูกค้าสวนกระแสตลาดในช่วงเทศกาล ซึ่งส่วนนี้จะส่งผลโดยตรงทำให้ค่าเช่าถูกลง เช่น เช่าหนึ่งวันแถมหนึ่งวัน หรือเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ขนาดเล็กแต่นำรถรุ่นใหญ่กว่าให้ลูกค้าไปใช้งานในราคารถเล็ก เป็นต้น
“การให้เช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ระยะยาวจะมีรถให้บริการลูกค้าทุกรุ่นตามความต้องการของลูกค้า ส่วนรถเช่าระยะ สั้นจะเป็นกลุ่มรถตลาด เช่น โตโยต้า อัลติส, นิสสัน ซันนี่ นีโอ, มิตซูบิชิ ซีเดีย และฮอนด้า ซีวิค แต่จะเพิ่มรุ่นต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากกว่าคู่แข่งเป็นการสร้างความแตกต่างเพื่อแข่งขันใน ตลาด”
ในปี 2546 บริษัทฯมีแผนที่จะขยายตลาดรุกไปสู่ตลาดรถเช่าระยะ สั้น โดยจะเริ่มปูพื้นฐานไปจากกรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะมีการขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด เน้นเจาะตลาดนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ที่ผ่านมาธุรกิจหลักของบริษัทฯ เป็นรถเช่าระยะยาวมีสัดส่วนประมาณ 85% ส่วนรถเช่าระยะสั้นมีสัดส่วนประมาณ 15% หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 12% จากรายได้ในปี 2545 ประมาณ 430 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่นำกลยุทธ์ด้านบริการมาเป็นธงนำ มาจากต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด และจะไม่ก่อให้เกิดแข่งขันกันดัมพ์ราคา เนื่องจากต้นทุนดำเนินการทั้งหมดนั้นบริษัทฯเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งในระยะยาวจะไม่เกิดผลดีกับธุรกิจรถเช่าโดยรวม และจะไม่เน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯมากเนื่องจากกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เป็นองค์กรที่เช่าระยะยาวที่เป็นลูกค้าหลักมากกว่า
นอกจากนี้ยังจะใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งจะเน้นไปที่ สื่อนิตยสาร และเว็บ ไซต์ต่างๆ ส่วนหนึ่งจะโฆษณาเจาะเข้าหาลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ จะมาจาก รัฐ-วิสาหกิจ, หน่วยงานราชการ, บริษัทเอกชนชั้นนำ และบุคคลทั่วไปเช่าระยะสั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว รถยนต์ที่ลูกค้านิยมจะเป็นกลุ่มรถยนต์ปฏิบัติการขนาดเล็ก
“ตลาดรถเช่าในช่วงที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจ และผลประโยชน์จากการเช่า ที่สำคัญคือ อัตราค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ที่ลดลงทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นองค์กรเริ่มมาใช้บริการรถเช่าแทนการซื้อ ในอนาคตแนวโน้มอัตราเติบโตของตลาดรวมจะไม่สูงมาก จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาอัตราค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ลดลงประมาณ 30-40% และราคารถยนต์ใหม่ก็ปรับราคาสูงขึ้น คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตไม่เกิน 8% ที่จริงน่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่านี้”
นายพิชิต กล่าวต่อไปว่า ในปี 2546 แนวโน้มอัตราค่ารถเช่าจะ ลดลงมาอีก เนื่องจากสภาพการแข่งขันที่ดุเดือด และผู้บริโภคก็หันมาซื้อรถมือสองมากขึ้น ส่งผลโดยตรงทำให้ราคาซากรถสูงขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาผู้ประกอบการลดราคาค่าเช่าลงมาแข่งขันในตลาด บริษัทเองต้องควบคุมการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน
โดยอัตราการเติบโตของธุรกิจรถเช่ายัง อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากสภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่าในอดีตจะไม่ใช้เกณฑ์ด้านราคามาเป็นกลไกการแข่งขัน เพียงอย่างเดียว จะมีการบริการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่ใช้เกณฑ์ด้านราคาเข้ามาแข่งขันในตลาดเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการประเมินค่าซากรถยนต์ในราคาค่อนข้างสูงเกินความเป็นจริง
“จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรถเช่าใน ปัจจุบัน ได้มีการประเมินค่าซ่องบำรุงรถต่ำเกินไป ด้วยความเชื่อที่ว่า รถที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้นจะมีอัตราการเสียน้อยลง แต่ในความเป็นจริง รถที่มีเทคโนโลยีสูงจะเสียง่ายขึ้น และซ่อมบำรุงยาก ส่งผลให้การคำนวณต้นทุนดำเนินการผิดพลาด ซึ่งค่าเช่าจะสูงหรือต่ำอยู่ที่การประเมินราคาค่าซ่อมเป็นหลัก”
ภาพรวมของตลาดรถเช่านั้น ผู้ประกอบการจะมองภาพในแง่บวก ประเมินค่าซากสูงเกินไป และในปีนี้ ภาพรวมของราคาค่าซากจะลดลง เนื่องจากแนวโน้มราคารถใหม่จะไม่ปรับราคาไปมากนัก อีกประมาณ 2-3 ปี หรือองค์การการค้าโลก (WTO) มีผลบังคับราคารถยนต์จะตกลงมาอีกครั้ง พร้อมกับราคาที่จะกลับมาสู่ภาวะความเป็นจริงอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเพรสทีจ เร้นท์ อะคาร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถเช่าในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้น ทุกค่ายจึงหันมาใช้กลยุทธ์ดัมพ์ราคาค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) มาแข่งขันในตลาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลค่อนข้างดีในเวลารวดเร็ว แต่ปัญหาของธุรกิจอยู่ที่การพิจารณาอนุมัติการเช่าสำหรับลูกค้าแต่ละรายที่ ยังเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ทางด้านรถที่ลูกค้ามีความต้องการสูงยังเป็นรถตลาดทั่วไป และต้องการใช้สูงในเทศกาลต่างๆ
แหล่งข่าวจากนักวิชาการด้านการตลาด กล่าวว่า ธุรกิจรถเช่าที่ ดำเนินธุรกิจในตลาดอย่างต่อเนื่องยาวนานมีจำนวนไม่มากนัก เพราะรูปแบบธุรกิจไม่แน่นอนตายตัว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย บางรายขาดประสบ-การณ์เมื่อไม่ประสบความสำเร็จก็ออกจากธุรกิจไป ทำให้กลยุทธ์การตลาดด้านราคาเป็นที่ยอดฮิต มีบางค่ายพยายามนำกลยุทธ์การให้บริการเข้ามาใช้ แต่ก็ไม้ได้ผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

รถเช่ากำไรอยู่ที่มูลค่าซาก

ธุรกิจรถเช่าโดยภาพรวมมีรถอยู่ในระบบประมาณ 16,000-20,000 คัน มีมูลค่าตลาดประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวไม่รวมรถเช่าของ องค์กรขนาดใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ถ้าเป็นบริษัทของคนไทย กรุงไทยคาร์เร้นท์ จะติดอยู่ในอันดับ 1 หรือ 2 ซึ่งมีจำนวนรถเช่าอยู่ประมาณ 2,500 คัน ขณะที่ เพชรบุรีคาร์เร้นท์ ผู้ประกอบการคนไทยมีรถเช่าอยู่ในมือประมาณ 1,500 คัน
สภาพของตลาดรถเช่ามีผู้ประกอบการ สนใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ลักษณะพิเศษของธุรกิจรถเช่าจะ มองเห็นกำไรหรือขาดทุนเมื่อขายซากรถออกไป ในอดีตธุรกิจยังมีกำไรจากการเช่าอยู่บ้างแม้จะไม่มากนัก เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาค่าเช่าลดลงทุกปีทำให้สภาพตลาดเปลี่ยนไป ปีที่ผ่านสภาพการแข่งขันในตลาดก็เปลี่ยนไปมากทำให้ผู้ประกอบการต้องควบคุม รายได้ให้พอดีกับค่าใช้จ่ายภายในองค์กร
ดังนั้น มีนักธุรกิจหลายรายที่เข้ามาสู่ ตลาดที่มีการคำนวณต้นทุนไม่ถูกต้อง และควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ดีจะอยู่ในตลาดได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น ในปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเข้ามาสู่ตลาดที่สุดก็ต้องปิดตัวไปเนื่องจากขาด ประสบการณ์
ในตลาดรถเช่าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ รถเช่าระยะสั้น และรถเช่าระยะยาว สำหรับกรุงไทยคาร์เร้นท์ เป็นธุรกิจรถเช่าแบบ ผสม ดังนั้นเมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนไป บริษัทฯ ต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วยการขยายฐาน ลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่มากขึ้น

สรชท.สร้างมาตรฐานบริการ

สำหรับคณะกรรมการสมาคมรถเช่าไทย (สรชท.) องค์กรกลางสำหรับผู้ประ-กอบการธุรกิจรถเช่าใน ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนามาตรฐานการให้บริการของสมาชิก เมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานบริการ โดยมีนายนที วรรธนะ-โกวินท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับนางแน่งน้อย บุญยะสาระนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ อินเตอร์ลิสซิ่ง จำกัด และนายอลัน เดวิดสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์คลาส เร้นท์ อะคาร์ จำกัด ผู้ก่อตั้งสมาคมรถเช่าไทย (สรชท.) เป็นแกนนำ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ปรับปรุงงานบริการรถเช่าให้มีคุณภาพและสร้างมาตรฐานให้แก่รถเช่า ภายใต้สโลแกน “สร้างมาตรฐานใหม่ ใส่ใจผู้ใช้บริการ” และสร้างกฎระเบียบในวิชาชีพให้แก่สมาชิกผู้ประกอบรถเช่า เพื่อเป็นองค์กรกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างสมาชิก และผู้ใช้บริการรถเช่า
นอกจากนี้ยังส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ทางสังคม ผู้ใช้บริการรถเช่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งระยะสั้นระยะยาวให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในความปลอดภัยของรถยนต์ที่เช่า จะได้ราคาค่าเช่าและข้อกำหนดที่เป็นธรรม ภายใต้สัญญาเช่ามาตรฐานของสมาคม
ส่วนแผนงานในอนาคต สมาคมฯ มี โครงการที่จะดำเนินการในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมรถเช่าให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจถึงการบริการรถเช่าของ สมาชิก สมาคม ทั้งยังจะมีการจัดอบรมพนักงานขับรถยนต์ให้กับสมาชิก เพื่อพัฒนามาตรฐานการทำงานของพนักงานขับรถให้ดียิ่งขึ้น ร่วมรณรงค์ และประชาสัมพันธ์เมาไม่ขับ เพิ่มความปลอดภัย ทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงานขับรถ
ติดต่อได้ที่ บมจ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ลีส
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
เว็บไซต์ : http://www.krungthai.co.th/
โทรศัพท์  สาขาพระราม 3  022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น