กรุงไทยคาร์เร้นท์ฯ ปรับกลยุทธ์การตลาด ปี 2546 เน้นงานบริการควบกิจกรรม CRM มาแทนกลยุทธ์แข่งขันราคา มุ่งขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มรถเช่าระยะสั้น พร้อมเปิดตลาดต่างจังหวัด ทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 10 ล้านบาท
นายพิชิต จันทร-เสรีกุล รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท กรุง-ไทยคาร์เร้นท์
อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรถเช่า
เปิดเผยถึงกลยุทธ์การตลาดกับ “บิสิเนสไทย” ว่า
ในปีนี้บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ไปจากที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ
จะไม่เน้นใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการทำตลาดมากจนเกินไป
เช่นหากเป็นรถเช่าระยะ
ยาวแล้วกลยุทธ์ด้านราคาจะเข้ามามีบทบาทน้อยมาก
แต่กลยุทธ์สำคัญที่กรุงไทยคาร์เร้นท์จะนำมาใช้จริงจังในปีนี้เน้นไปที่
งานบริการเป็นหลัก โดยใช้กลยุทธ์ลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship
Management : CRM)
ที่ผ่านมาการที่ผู้ประกอบการนำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้เนื่องจากได้ผลเร็วกว่า
วิธีการอื่นอย่างชัดเจน
ส่วนแผนระยะยาวนอกจากจะมุ่งไปที่รถเช่าระยะ
สั้นแล้วยังจัดแคมเปญส่งเสริมการขายให้ลูกได้มีโอกาสเข้ามาทดลองใช้บริการ
ด้วย โดยใช้ระบบสมาชิกเข้ามาเป็นจุดเรียกความสนใจ
จากนั้นจะปรับโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงเพิ่มกิจกรรมต่างๆ
ที่จะเป็นประโยชน์กับลูกค้าสวนกระแสตลาดในช่วงเทศกาล
ซึ่งส่วนนี้จะส่งผลโดยตรงทำให้ค่าเช่าถูกลง เช่น เช่าหนึ่งวันแถมหนึ่งวัน
หรือเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ขนาดเล็กแต่นำรถรุ่นใหญ่กว่าให้ลูกค้าไปใช้งานในราคารถเล็ก เป็นต้น
“การให้เช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ระยะยาวจะมีรถให้บริการลูกค้าทุกรุ่นตามความต้องการของลูกค้า ส่วนรถเช่าระยะ
สั้นจะเป็นกลุ่มรถตลาด เช่น โตโยต้า อัลติส, นิสสัน ซันนี่ นีโอ, มิตซูบิชิ
ซีเดีย และฮอนด้า ซีวิค แต่จะเพิ่มรุ่นต่างๆ
ให้มีความหลากหลายมากกว่าคู่แข่งเป็นการสร้างความแตกต่างเพื่อแข่งขันใน
ตลาด”
ในปี 2546 บริษัทฯมีแผนที่จะขยายตลาดรุกไปสู่ตลาดรถเช่าระยะ
สั้น โดยจะเริ่มปูพื้นฐานไปจากกรุงเทพฯ
หลังจากนั้นจะมีการขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด
เน้นเจาะตลาดนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ที่ผ่านมาธุรกิจหลักของบริษัทฯ
เป็นรถเช่าระยะยาวมีสัดส่วนประมาณ 85% ส่วนรถเช่าระยะสั้นมีสัดส่วนประมาณ
15% หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 12% จากรายได้ในปี 2545 ประมาณ 430 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่นำกลยุทธ์ด้านบริการมาเป็นธงนำ
มาจากต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด
และจะไม่ก่อให้เกิดแข่งขันกันดัมพ์ราคา
เนื่องจากต้นทุนดำเนินการทั้งหมดนั้นบริษัทฯเป็นผู้รับผิดชอบ
ซึ่งในระยะยาวจะไม่เกิดผลดีกับธุรกิจรถเช่าโดยรวม และจะไม่เน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯมากเนื่องจากกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เป็นองค์กรที่เช่าระยะยาวที่เป็นลูกค้าหลักมากกว่า
นอกจากนี้ยังจะใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งจะเน้นไปที่
สื่อนิตยสาร และเว็บ ไซต์ต่างๆ ส่วนหนึ่งจะโฆษณาเจาะเข้าหาลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
โดยจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ จะมาจาก
รัฐ-วิสาหกิจ, หน่วยงานราชการ, บริษัทเอกชนชั้นนำ
และบุคคลทั่วไปเช่าระยะสั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว
รถยนต์ที่ลูกค้านิยมจะเป็นกลุ่มรถยนต์ปฏิบัติการขนาดเล็ก
“ตลาดรถเช่าในช่วงที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจ และผลประโยชน์จากการเช่า ที่สำคัญคือ อัตราค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ที่ลดลงทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นองค์กรเริ่มมาใช้บริการรถเช่าแทนการซื้อ ในอนาคตแนวโน้มอัตราเติบโตของตลาดรวมจะไม่สูงมาก จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาอัตราค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ลดลงประมาณ 30-40% และราคารถยนต์ใหม่ก็ปรับราคาสูงขึ้น คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตไม่เกิน 8% ที่จริงน่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่านี้”
นายพิชิต กล่าวต่อไปว่า ในปี 2546 แนวโน้มอัตราค่ารถเช่าจะ
ลดลงมาอีก เนื่องจากสภาพการแข่งขันที่ดุเดือด
และผู้บริโภคก็หันมาซื้อรถมือสองมากขึ้น ส่งผลโดยตรงทำให้ราคาซากรถสูงขึ้น
เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาผู้ประกอบการลดราคาค่าเช่าลงมาแข่งขันในตลาด บริษัทเองต้องควบคุมการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน
โดยอัตราการเติบโตของธุรกิจรถเช่ายัง
อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากสภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป
จะเห็นได้ว่าในอดีตจะไม่ใช้เกณฑ์ด้านราคามาเป็นกลไกการแข่งขัน
เพียงอย่างเดียว จะมีการบริการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่ใช้เกณฑ์ด้านราคาเข้ามาแข่งขันในตลาดเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังมีการประเมินค่าซากรถยนต์ในราคาค่อนข้างสูงเกินความเป็นจริง
“จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรถเช่าใน
ปัจจุบัน ได้มีการประเมินค่าซ่องบำรุงรถต่ำเกินไป ด้วยความเชื่อที่ว่า
รถที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้นจะมีอัตราการเสียน้อยลง แต่ในความเป็นจริง
รถที่มีเทคโนโลยีสูงจะเสียง่ายขึ้น และซ่อมบำรุงยาก
ส่งผลให้การคำนวณต้นทุนดำเนินการผิดพลาด
ซึ่งค่าเช่าจะสูงหรือต่ำอยู่ที่การประเมินราคาค่าซ่อมเป็นหลัก”
ภาพรวมของตลาดรถเช่านั้น
ผู้ประกอบการจะมองภาพในแง่บวก ประเมินค่าซากสูงเกินไป และในปีนี้
ภาพรวมของราคาค่าซากจะลดลง
เนื่องจากแนวโน้มราคารถใหม่จะไม่ปรับราคาไปมากนัก อีกประมาณ 2-3 ปี
หรือองค์การการค้าโลก (WTO) มีผลบังคับราคารถยนต์จะตกลงมาอีกครั้ง
พร้อมกับราคาที่จะกลับมาสู่ภาวะความเป็นจริงอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเพรสทีจ เร้นท์ อะคาร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถเช่าในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้น ทุกค่ายจึงหันมาใช้กลยุทธ์ดัมพ์ราคาค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) มาแข่งขันในตลาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลค่อนข้างดีในเวลารวดเร็ว
แต่ปัญหาของธุรกิจอยู่ที่การพิจารณาอนุมัติการเช่าสำหรับลูกค้าแต่ละรายที่
ยังเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ
ทางด้านรถที่ลูกค้ามีความต้องการสูงยังเป็นรถตลาดทั่วไป
และต้องการใช้สูงในเทศกาลต่างๆ
แหล่งข่าวจากนักวิชาการด้านการตลาด กล่าวว่า ธุรกิจรถเช่าที่
ดำเนินธุรกิจในตลาดอย่างต่อเนื่องยาวนานมีจำนวนไม่มากนัก
เพราะรูปแบบธุรกิจไม่แน่นอนตายตัว
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย
บางรายขาดประสบ-การณ์เมื่อไม่ประสบความสำเร็จก็ออกจากธุรกิจไป
ทำให้กลยุทธ์การตลาดด้านราคาเป็นที่ยอดฮิต
มีบางค่ายพยายามนำกลยุทธ์การให้บริการเข้ามาใช้
แต่ก็ไม้ได้ผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
รถเช่ากำไรอยู่ที่มูลค่าซาก
ธุรกิจรถเช่าโดยภาพรวมมีรถอยู่ในระบบประมาณ 16,000-20,000 คัน มีมูลค่าตลาดประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวไม่รวมรถเช่าของ
องค์กรขนาดใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ถ้าเป็นบริษัทของคนไทย
กรุงไทยคาร์เร้นท์ จะติดอยู่ในอันดับ 1 หรือ 2 ซึ่งมีจำนวนรถเช่าอยู่ประมาณ 2,500 คัน ขณะที่ เพชรบุรีคาร์เร้นท์ ผู้ประกอบการคนไทยมีรถเช่าอยู่ในมือประมาณ 1,500 คัน
สภาพของตลาดรถเช่ามีผู้ประกอบการ สนใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ลักษณะพิเศษของธุรกิจรถเช่าจะ
มองเห็นกำไรหรือขาดทุนเมื่อขายซากรถออกไป
ในอดีตธุรกิจยังมีกำไรจากการเช่าอยู่บ้างแม้จะไม่มากนัก เมื่อ 2-3
ปีที่ผ่านมา ราคาค่าเช่าลดลงทุกปีทำให้สภาพตลาดเปลี่ยนไป
ปีที่ผ่านสภาพการแข่งขันในตลาดก็เปลี่ยนไปมากทำให้ผู้ประกอบการต้องควบคุม
รายได้ให้พอดีกับค่าใช้จ่ายภายในองค์กร
ดังนั้น มีนักธุรกิจหลายรายที่เข้ามาสู่ ตลาดที่มีการคำนวณต้นทุนไม่ถูกต้อง
และควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ดีจะอยู่ในตลาดได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น
ในปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเข้ามาสู่ตลาดที่สุดก็ต้องปิดตัวไปเนื่องจากขาด
ประสบการณ์
ในตลาดรถเช่าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ รถเช่าระยะสั้น และรถเช่าระยะยาว สำหรับกรุงไทยคาร์เร้นท์ เป็นธุรกิจรถเช่าแบบ
ผสม ดังนั้นเมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนไป บริษัทฯ
ต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วยการขยายฐาน
ลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่มากขึ้น
สรชท.สร้างมาตรฐานบริการ
สำหรับคณะกรรมการสมาคมรถเช่าไทย (สรชท.) องค์กรกลางสำหรับผู้ประ-กอบการธุรกิจรถเช่าใน
ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนามาตรฐานการให้บริการของสมาชิก
เมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานบริการ
โดยมีนายนที วรรธนะ-โกวินท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์
(ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับนางแน่งน้อย บุญยะสาระนันท์ กรรมการผู้จัดการ
บริษัท พรีเมียร์ อินเตอร์ลิสซิ่ง จำกัด และนายอลัน เดวิดสัน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์คลาส เร้นท์ อะคาร์ จำกัด
ผู้ก่อตั้งสมาคมรถเช่าไทย (สรชท.) เป็นแกนนำ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ปรับปรุงงานบริการรถเช่าให้มีคุณภาพและสร้างมาตรฐานให้แก่รถเช่า
ภายใต้สโลแกน “สร้างมาตรฐานใหม่ ใส่ใจผู้ใช้บริการ”
และสร้างกฎระเบียบในวิชาชีพให้แก่สมาชิกผู้ประกอบรถเช่า
เพื่อเป็นองค์กรกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างสมาชิก และผู้ใช้บริการรถเช่า
นอกจากนี้ยังส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ทางสังคม ผู้ใช้บริการรถเช่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งระยะสั้นระยะยาวให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในความปลอดภัยของรถยนต์ที่เช่า จะได้ราคาค่าเช่าและข้อกำหนดที่เป็นธรรม ภายใต้สัญญาเช่ามาตรฐานของสมาคม
ส่วนแผนงานในอนาคต สมาคมฯ มี โครงการที่จะดำเนินการในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมรถเช่าให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจถึงการบริการรถเช่าของ
สมาชิก สมาคม ทั้งยังจะมีการจัดอบรมพนักงานขับรถยนต์ให้กับสมาชิก
เพื่อพัฒนามาตรฐานการทำงานของพนักงานขับรถให้ดียิ่งขึ้น ร่วมรณรงค์
และประชาสัมพันธ์เมาไม่ขับ เพิ่มความปลอดภัย
ทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงานขับรถ
ติดต่อได้ที่ บมจ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ลีส
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
เว็บไซต์ : http://www.krungthai.co.th/
โทรศัพท์ สาขาพระราม 3 022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089
โทรศัพท์ สาขาพระราม 3 022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น