วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Rent a car Thailand: รถเช่าระยะยาว (Rent a car Thailand) (2)

 

ประโยชน์ของรถเช่าระยะยาว (rent a car Bankok or rent a car Thailand)

เวลาที่บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่ต้องการจัดหารถยนต์มาเพื่อสำหรับใช้งาน การเลือกวิธีเช่ารถระยะยาว แทนการซื้อรถยนต์นั้น เป็นการลดภาระทางด้านการเงิน โดยที่ไม่ต้องนำเงินสดทั้งก้อน หรือต้องลงทุนเงินดาวน์ มาเพื่อซื้อรถยนต์ ทำให้สามารถนำเงินในส่วนนี้ ไปใช้ให้ก่อเกิดประโยชน์ในด้านอื่นได้
. 

การรถเช่าระยะยาว การลดภาระด้านการจัดการ

(rent a car Bankok or rent a car Thailand)

รถยนต์ทุกคัน ต้องการการซ่อมบำรุงตามระยะเวลา ดังนั้นนอกจากการใช้งานรถยนต์โดยทั่วไปแล้ว คุณยังต้องคอยดูแลรักษา ตรวจเช็คระยะ เปลี่ยนแบตตารี่ เปลี่ยนยาง ตามกำหนดเวลา รวมทั้งคอยต่อภาษีประจำปี ต่อประกันภัย จึงเป็นเหตุผลให้หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน มองเห็นว่าควรจะลดภาระด้านการจัดการรถยนต์นี้ออกไป เพื่อที่จะได้ไป Focus การบริหารจัดการงานส่วนอื่นให้ก่อประโยชน์มากขึ้น โดยให้ผู้ให้บริการเช่ารถรับภาระด้านการจัดการรถยนต์นี้แทน

 

รถเช่าระยะยาว การตัดปัญหาการรั่วไหล

(rent a car Bankok or rent a car Thailand)

นอกจากการลดภาระด้านการจัดการดูแลรถยนต์เอง โดยการเช่ารถระยะยาวแล้วนั้น สิ่งที่เป็นผลพลอยได้อีกอย่างนึง คือ เช่ารถยนต์ ไม่ต้องเสี่ยงที่จะประสบกับ”ปัญหาการรั่วไหลของค่าใช้จ่ายการดูแลรถยนต์ที่ เกินความเป็นจริง” ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกองค์กร ทุกบริษัท ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ดังนั้น การเช่ารถระยะยาว จึงเป็นการตัดปัญหา”การรั่วไหลของค่าดูแลรถยนต์”ไปได้โดยปริยาย
 ที่มา http://carrent.blog.com/th/
ติดต่อได้ที่ บมจ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ลีส
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
เว็บไซต์ : http://www.krungthai.co.th/

โทรศัพท์  สาขาพระราม 3  022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Rent a car Thailand: กรุงไทยคาร์เร้นท์ เน้นบริการ+CRM

กรุงไทยคาร์เร้นท์ฯ ปรับกลยุทธ์การตลาด ปี 2546 เน้นงานบริการควบกิจกรรม CRM มาแทนกลยุทธ์แข่งขันราคา มุ่งขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มรถเช่าระยะสั้น พร้อมเปิดตลาดต่างจังหวัด ทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 10 ล้านบาท
ส่วนแผนระยะยาวนอกจากจะมุ่งไปที่รถเช่าระยะ สั้นแล้วยังจัดแคมเปญส่งเสริมการขายให้ลูกได้มีโอกาสเข้ามาทดลองใช้บริการ ด้วย โดยใช้ระบบสมาชิกเข้ามาเป็นจุดเรียกความสนใจ จากนั้นจะปรับโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับลูกค้าสวนกระแสตลาดในช่วงเทศกาล ซึ่งส่วนนี้จะส่งผลโดยตรงทำให้ค่าเช่าถูกลง เช่น เช่าหนึ่งวันแถมหนึ่งวัน หรือเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ขนาดเล็กแต่นำรถรุ่นใหญ่กว่าให้ลูกค้าไปใช้งานในราคารถเล็ก เป็นต้น
“การให้เช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ระยะยาวจะมีรถให้บริการลูกค้าทุกรุ่นตามความต้องการของลูกค้า ส่วนรถเช่าระยะ สั้นจะเป็นกลุ่มรถตลาด เช่น โตโยต้า อัลติส, นิสสัน ซันนี่ นีโอ, มิตซูบิชิ ซีเดีย และฮอนด้า ซีวิค แต่จะเพิ่มรุ่นต่างๆ ให้มีความหลากหลายมากกว่าคู่แข่งเป็นการสร้างความแตกต่างเพื่อแข่งขันใน ตลาด”
ในปี 2546 บริษัทฯมีแผนที่จะขยายตลาดรุกไปสู่ตลาดรถเช่าระยะ สั้น โดยจะเริ่มปูพื้นฐานไปจากกรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะมีการขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด เน้นเจาะตลาดนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ที่ผ่านมาธุรกิจหลักของบริษัทฯ เป็นรถเช่าระยะยาวมีสัดส่วนประมาณ 85% ส่วนรถเช่าระยะสั้นมีสัดส่วนประมาณ 15% หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 12% จากรายได้ในปี 2545 ประมาณ 430 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่นำกลยุทธ์ด้านบริการมาเป็นธงนำ มาจากต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด และจะไม่ก่อให้เกิดแข่งขันกันดัมพ์ราคา เนื่องจากต้นทุนดำเนินการทั้งหมดนั้นบริษัทฯเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งในระยะยาวจะไม่เกิดผลดีกับธุรกิจรถเช่าโดยรวม และจะไม่เน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯมากเนื่องจากกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เป็นองค์กรที่เช่าระยะยาวที่เป็นลูกค้าหลักมากกว่า
นอกจากนี้ยังจะใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งจะเน้นไปที่ สื่อนิตยสาร และเว็บ ไซต์ต่างๆ ส่วนหนึ่งจะโฆษณาเจาะเข้าหาลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ จะมาจาก รัฐ-วิสาหกิจ, หน่วยงานราชการ, บริษัทเอกชนชั้นนำ และบุคคลทั่วไปเช่าระยะสั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว รถยนต์ที่ลูกค้านิยมจะเป็นกลุ่มรถยนต์ปฏิบัติการขนาดเล็ก
“ตลาดรถเช่าในช่วงที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจ และผลประโยชน์จากการเช่า ที่สำคัญคือ อัตราค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ที่ลดลงทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นองค์กรเริ่มมาใช้บริการรถเช่าแทนการซื้อ ในอนาคตแนวโน้มอัตราเติบโตของตลาดรวมจะไม่สูงมาก จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาอัตราค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ลดลงประมาณ 30-40% และราคารถยนต์ใหม่ก็ปรับราคาสูงขึ้น คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตไม่เกิน 8% ที่จริงน่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่านี้”
นายพิชิต กล่าวต่อไปว่า ในปี 2546 แนวโน้มอัตราค่ารถเช่าจะ ลดลงมาอีก เนื่องจากสภาพการแข่งขันที่ดุเดือด และผู้บริโภคก็หันมาซื้อรถมือสองมากขึ้น ส่งผลโดยตรงทำให้ราคาซากรถสูงขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาผู้ประกอบการลดราคาค่าเช่าลงมาแข่งขันในตลาด บริษัทเองต้องควบคุมการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน
โดยอัตราการเติบโตของธุรกิจรถเช่ายัง อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากสภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่าในอดีตจะไม่ใช้เกณฑ์ด้านราคามาเป็นกลไกการแข่งขัน เพียงอย่างเดียว จะมีการบริการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่ใช้เกณฑ์ด้านราคาเข้ามาแข่งขันในตลาดเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการประเมินค่าซากรถยนต์ในราคาค่อนข้างสูงเกินความเป็นจริง
“จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรถเช่าใน ปัจจุบัน ได้มีการประเมินค่าซ่องบำรุงรถต่ำเกินไป ด้วยความเชื่อที่ว่า รถที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้นจะมีอัตราการเสียน้อยลง แต่ในความเป็นจริง รถที่มีเทคโนโลยีสูงจะเสียง่ายขึ้น และซ่อมบำรุงยาก ส่งผลให้การคำนวณต้นทุนดำเนินการผิดพลาด ซึ่งค่าเช่าจะสูงหรือต่ำอยู่ที่การประเมินราคาค่าซ่อมเป็นหลัก”
ภาพรวมของตลาดรถเช่านั้น ผู้ประกอบการจะมองภาพในแง่บวก ประเมินค่าซากสูงเกินไป และในปีนี้ ภาพรวมของราคาค่าซากจะลดลง เนื่องจากแนวโน้มราคารถใหม่จะไม่ปรับราคาไปมากนัก อีกประมาณ 2-3 ปี หรือองค์การการค้าโลก (WTO) มีผลบังคับราคารถยนต์จะตกลงมาอีกครั้ง พร้อมกับราคาที่จะกลับมาสู่ภาวะความเป็นจริงอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเพรสทีจ เร้นท์ อะคาร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถเช่าในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้น ทุกค่ายจึงหันมาใช้กลยุทธ์ดัมพ์ราคาค่าเช่ารถ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) มาแข่งขันในตลาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลค่อนข้างดีในเวลารวดเร็ว แต่ปัญหาของธุรกิจอยู่ที่การพิจารณาอนุมัติการเช่าสำหรับลูกค้าแต่ละรายที่ ยังเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ทางด้านรถที่ลูกค้ามีความต้องการสูงยังเป็นรถตลาดทั่วไป และต้องการใช้สูงในเทศกาลต่างๆ
แหล่งข่าวจากนักวิชาการด้านการตลาด กล่าวว่า ธุรกิจรถเช่าที่ ดำเนินธุรกิจในตลาดอย่างต่อเนื่องยาวนานมีจำนวนไม่มากนัก เพราะรูปแบบธุรกิจไม่แน่นอนตายตัว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย บางรายขาดประสบ-การณ์เมื่อไม่ประสบความสำเร็จก็ออกจากธุรกิจไป ทำให้กลยุทธ์การตลาดด้านราคาเป็นที่ยอดฮิต มีบางค่ายพยายามนำกลยุทธ์การให้บริการเข้ามาใช้ แต่ก็ไม้ได้ผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

รถเช่ากำไรอยู่ที่มูลค่าซาก

ธุรกิจรถเช่าโดยภาพรวมมีรถอยู่ในระบบประมาณ 16,000-20,000 คัน มีมูลค่าตลาดประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวไม่รวมรถเช่าของ องค์กรขนาดใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ถ้าเป็นบริษัทของคนไทย กรุงไทยคาร์เร้นท์ จะติดอยู่ในอันดับ 1 หรือ 2 ซึ่งมีจำนวนรถเช่าอยู่ประมาณ 2,500 คัน ขณะที่ เพชรบุรีคาร์เร้นท์ ผู้ประกอบการคนไทยมีรถเช่าอยู่ในมือประมาณ 1,500 คัน
สภาพของตลาดรถเช่ามีผู้ประกอบการ สนใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ลักษณะพิเศษของธุรกิจรถเช่าจะ มองเห็นกำไรหรือขาดทุนเมื่อขายซากรถออกไป ในอดีตธุรกิจยังมีกำไรจากการเช่าอยู่บ้างแม้จะไม่มากนัก เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาค่าเช่าลดลงทุกปีทำให้สภาพตลาดเปลี่ยนไป ปีที่ผ่านสภาพการแข่งขันในตลาดก็เปลี่ยนไปมากทำให้ผู้ประกอบการต้องควบคุม รายได้ให้พอดีกับค่าใช้จ่ายภายในองค์กร
ดังนั้น มีนักธุรกิจหลายรายที่เข้ามาสู่ ตลาดที่มีการคำนวณต้นทุนไม่ถูกต้อง และควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ดีจะอยู่ในตลาดได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น ในปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเข้ามาสู่ตลาดที่สุดก็ต้องปิดตัวไปเนื่องจากขาด ประสบการณ์
ในตลาดรถเช่าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ รถเช่าระยะสั้น และรถเช่าระยะยาว สำหรับกรุงไทยคาร์เร้นท์ เป็นธุรกิจรถเช่าแบบ ผสม ดังนั้นเมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนไป บริษัทฯ ต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วยการขยายฐาน ลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่มากขึ้น

สรชท.สร้างมาตรฐานบริการ

สำหรับคณะกรรมการสมาคมรถเช่าไทย (สรชท.) องค์กรกลางสำหรับผู้ประ-กอบการธุรกิจรถเช่าใน ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนามาตรฐานการให้บริการของสมาชิก เมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานบริการ โดยมีนายนที วรรธนะ-โกวินท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับนางแน่งน้อย บุญยะสาระนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ อินเตอร์ลิสซิ่ง จำกัด และนายอลัน เดวิดสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์คลาส เร้นท์ อะคาร์ จำกัด ผู้ก่อตั้งสมาคมรถเช่าไทย (สรชท.) เป็นแกนนำ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ปรับปรุงงานบริการรถเช่าให้มีคุณภาพและสร้างมาตรฐานให้แก่รถเช่า ภายใต้สโลแกน “สร้างมาตรฐานใหม่ ใส่ใจผู้ใช้บริการ” และสร้างกฎระเบียบในวิชาชีพให้แก่สมาชิกผู้ประกอบรถเช่า เพื่อเป็นองค์กรกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างสมาชิก และผู้ใช้บริการรถเช่า
นอกจากนี้ยังส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ทางสังคม ผู้ใช้บริการรถเช่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งระยะสั้นระยะยาวให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในความปลอดภัยของรถยนต์ที่เช่า จะได้ราคาค่าเช่าและข้อกำหนดที่เป็นธรรม ภายใต้สัญญาเช่ามาตรฐานของสมาคม
ส่วนแผนงานในอนาคต สมาคมฯ มี โครงการที่จะดำเนินการในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมรถเช่าให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจถึงการบริการรถเช่าของ สมาชิก สมาคม ทั้งยังจะมีการจัดอบรมพนักงานขับรถยนต์ให้กับสมาชิก เพื่อพัฒนามาตรฐานการทำงานของพนักงานขับรถให้ดียิ่งขึ้น ร่วมรณรงค์ และประชาสัมพันธ์เมาไม่ขับ เพิ่มความปลอดภัย ทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงานขับรถ
ติดต่อได้ที่ บมจ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ลีส
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
เว็บไซต์ : http://www.krungthai.co.th/
โทรศัพท์  สาขาพระราม 3  022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Rent a car Thailand: รถเช่าในประเทศไทย


                ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนเปิดให้บริการรถเช่าในประเทศ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) เพื่อการท่องเที่ยวอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว ให้สามารถเดินทางและท่องเที่ยวได้แม้ไม่มีพาหนะส่วนตัวไปเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการขับรถทางไกล หรือรถของตัวเองไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะเดินทางไกล
                 รถเช่ามีทั้งรถบัส รถตู้ (พร้อมคนขับ) รถยนต์รุ่นและยี่ห้อต่างๆ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน โดยมีสัญญาเช่าทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน มีประกันภัยรถและผู้ขับขี่ให้ โดยมีราคาค่าเช่าแตกต่างกันไปตามชนิดรถและสภาพของรถ ตามแต่ละบริษัทกำหนด
                 ในปัจจุบันบริษัทรถเช่าขนาดใหญ่บางบริษัทยังมีบริการให้เช่ารถที่ผู้เช่าสามารถรับและ คืนรถได้ต่างสาขา โดยผู้เช่าไม่จำเป็นต้องขับรถกลับไปคืนที่สาขาที่รับรถมา เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
ที่มา: thai.tourismthailand.org
ติดต่อได้ที่ บมจ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ลีส
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
เว็บไซต์ : http://www.krungthai.co.th/
โทรศัพท์  สาขาพระราม 3  022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Rent a car Thailand: เทคนิคการเช่ารถตู้

 

ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีรถตู้รุ่นใหม่ออกมาวิ่งกันมากมายเกลื่อนกล่น เลยทีเดียว ซึ่งปกติส่วนใหญ่จะเป็นรถโตโยต้า คอมมิวเตอร์ ถึง 99.9% อาจจะมีรถของประเทศจีนเริ่มเข้ามาวิ่งบ้าง แต่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะผู้ใช้ยังตระหนักถึงการบำรุงรักษา และเรื่องของอะไหล่ในระยะยาว

รถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ที่เราเห็นวิ่งกันอยู่ทั่วไปนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ รถที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ระบบคอมมอนเรล ปกติที่เห็นกันส่วนใหญ่ตัวถึงรถจะเป็นสีบรอนซ์เงิน ประมาณ 99% (ประเมิณเอาเอง) และแบบที่ 2 คือรถที่ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งส่วนใหญ่เช่นกันจะมีการติดตั้งระบบ NGV เข้าไปด้วยเพื่อประหยัดค่าเชื้อเพลิง ซึ่งจะมีแต่สีขาว(ยังไม่เคยเห็นสีอื่นเลย)

ถ้าพูดถึงความประหยัดค่าใช้จ่ายของค่าเชื้อเพลิงแล้ว ยังไงก็ต้องยกให้รถตู้ NGV เพราะเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแล้วจะอยู่ที่ ประมาณ 1.5 บาท/กม. แต่ถ้าเป็นรถน้ำมันค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ประมาณ 5.0-5.50 บาท/กม. ซึ่งจะเห็นได้ว่ารถที่ใช้ NGV จะประหยัดกว่ารถที่ใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 4-5 เท่า ยิ่งเดินทางไกลมากเท่าไร ความแตกต่างของค่าใช้จ่ายยิ่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

ผู้ที่เคยใช้บริการเช่ารถตู้ (rent a car Bankok or rent a car Thailand)  NGV ต่างทราบกันดีถึงความประหยัด และความแตกต่างเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่างการเช่ารถตู้น้ำมัน (rent a car Bankok or rent a car Thailand) กับรถตู้ NGV จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมรถตู้ NGV ถึงเต็มไปหมด (เห็นรถตู้บนท้องถนน ถ้าเป็นสีขาวให้เดาไว้ก่อนเลยว่าเป็นรถตู้ NGV - ถ้าเป็นสีบรอนซ์เงินให้เดาไว้เลยว่าเป็นรถน้ำมัน)

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นทางที่เราไปนั้นจะต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงประมาณ เท่าไร?.. เรื่องนี้ไม่ยากครับ เพียงเรารู้ว่าปลายทางที่เราจะเดินทางไปนั้นมีระยะทางกี่กิโลเมตร จากนั้นเราก็เอา 2 คูณ เพื่อให้เป็นระยะทางรวมไปและกลับ เช่นไปเชียงราย ระยะทางประมาณ 848 กม. (ต้นทางคือ กทม.) เอา 2 คูณ ก็จะได้ 1,696 กม. ซึ่งเป็นระยะทางไปและกลับ

- ถ้าเป็นรถตู้ใช้ NGV คุณต้องจ่าย (1,696x1.5) โดยประมาณ  2,953.5 บาท
- ถ้าเป็นรถตู้ใช้น้ำมัน คุณต้องจ่าย (1,696x5.5) โดยประมาณ  9,328.0  บาท
  นอกจากเรื่องประหยัด สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ การบริการ เช่นสุภาพ เป็นกันเองของพนักงานขับรถ ซึ่งปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม จะมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป แต่เราในฐานะผู้ใช้บริการย่อมต้องการสิ่งที่ดีเสมอ ดังนั้น เมื่อเราติดต่อหาบริการเช่ารถตู้ ควรหาผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มีมิตรสัมพันธ์ที่ดีแบบธรรมชาติ เวลาที่เราติดต่อสอบถาม (ไม่ใช่อะไรก็ครับๆ ได้หมด - แบบนี้ผิดธรรมชาติครับ) มีหลักมีเกณฑ์ มีมาตรฐานในเรื่องของ ราคา เวลาการให้บริการ เพราะจะมีผู้ให้บริการบางรายชอบฉวยโอกาสในช่วงเทศกาล โดยการขึ้นราคาค่าเช่า เพราะช่วงดังกล่าวจะมีผู้ใช้บริการเช่ารถตู้กันเยอะมาก

โดยปกติราคาค่าเช่ารถตู้ (rent a car Bankok or rent a car Thailand) ที่ไม่ใช่ช่วงเทศกาล หรือช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายๆ วัน ถ้าเป็นรถตู้ใช้น้ำมัน ค่าเช่าจะอยู่วันละ ประมาณ 1,800 บาท/วัน - 2,000 บาท/วัน (ขึ้นอยู่กับระยะทาง) ถ้าเป็นรถตู้ใช้ NGV จะอยู่ที่วันละ 2,000 บาท/วัน-2,200 บาท/วัน (ขึ้นอยู่กับระยะทาง) ซึ่งตรงนี้แหละครับจะเป็นตัววัดว่ามาตรฐานของผู้ให้บริการอยู่ระดับไหน เพราะอย่างที่กล่าวข้างต้น ผู้ให้บริการบางรายจะฉวยโอกาสขึ้นค่าเช่าในช่วงที่เป็นวันหยุดยาวๆ แต่ถ้าเป็นผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานสูงเขาจะมีราคาที่แน่นอนไม่ว่าจะเป็น ช่วงไหนก็ตาม

สำหรับบางท่านที่ไม่เคยใช้บริการเช่ารถตู้ที่ใช้ NGV โดยอาจจะได้ข้อมูลมาว่า น่ากลัว, ไม่ปลอดภัย, รถไม่ค่อยมีแรงเวลาขึ้นเขา, เวลาเติมแก๊สต้องรอนาน ผมขออธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้

ความปลอดภัยของรถที่ใช้ NGV
รถตู้ที่ใช้ NGV ทุกคัน ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ อยากไปติด NGV แล้วเอามาวิ่งได้เลยนะครับ การติดตั้งจะต้องผ่านการตรวจสอบการวิศวกร และยังต้องมีหนังสือรับรองเพื่อยืนยันว่ามีการตั้งได้มาตรฐานและมีวิศกรเซ็น ต์รับ และทุกๆ ปี จะต้องนำรถไปตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์กับบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากทาง การ พร้อมออกหนังสือรับรองแบบปีต่อปี (ไม่ใช่ออกให้ครั้งเดียวใช้จนรถพัง)

ถ้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัย มีอีกข้อให้สังเกต ระหว่างการเติมก๊าซกับการเติมน้ำมัน ถ้าเป็นการเติม NGV บางสถานีเขาจะให้ผู้โดยสารลงจากรถ   เหตุผลคือเรื่องของความปลอดภัย และรถต้องดับเครื่องทุกครั้งจึงจะเติมให้ แต่จุดที่น่าสังเกตอยู่ที่หัวเติมก๊าซ จะมิดชิด มีระบบป้องกันความปลอดภัยกว่าการเติมน้ำมัน ระบบความปลอดภัยจะสูงกว่าการเติมน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด

ปกติเวลารถเข้าเติมน้ำมัน ถังน้ำมันเปิด หัวจ่ายเสียบเข้าถัง สังเกตดีๆ เราจะเห็นไอของน้ำมันระเหยตลอดเวลา ยิ่งช่วงแดดร้อนจัดๆ จะเห็นชัดมาก หากเกิดประกายไฟสักนิดเดียว เป็นเรื่องทันที ซึ่งถ้าเป็นการเติมก๊าซ NGV เราจะไม่เห็นในลักษณนี้เลย อีกอย่างคือ รถที่เข้าเติม จะดับเครื่องหรือไม่ก็ได้ (ทั้งๆ ที่เป็นกฏของความปลอดภัย)
ที่มา thaibizcenter
ติดต่อได้ที่ บมจ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ลีส
อีเมล์ carrent@krungthai.co.th
เว็บไซต์ : http://www.krungthai.co.th/
โทรศัพท์  สาขาพระราม 3  022918888 ต่อ 130-133, สาขาอโศก 022460089